เรื่องของ โบท็อกซ์ ที่ต้องทำความรู้จัก

ศูนย์ : ศูนย์ผิวหนังและความงาม

บทความโดย : นพ. ชาญเกียรติ ส่องสันติภาพ

เรื่องของ โบท็อกซ์ ที่ต้องทำความรู้จัก

ทุกคนคงคุ้นเคยกับชื่อ Botox (โบท็อกซ์) กันอยู่แล้วว่าเป็นหนึ่งในหัตถการเสริมความงาม เพราะสามารถช่วยปรับหน้าเรียว ยกกระชับกรอบหน้า ลดริ้วรอยบนใบหน้าได้ แต่ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ว่า Botox คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง อย่างนั้นไปหาคำตอบกันเลย


Botox (โบท็อกซ์) คืออะไร

Botox (โบท็อกซ์) หรือ Botulinum toxin ซึ่งผลิตจากเชื้อแบคทีเรีย Clostidium botulinum ปัจจุบันทางการแพทย์สามารถสกัด Botulinum toxin ได้ทั้งหมด 7 ชนิด (A-G) แต่ชนิดที่นำมาใช้ทางการแพทย์มากที่สุด คือ Botulinum toxin type A กลไกการออกฤทธิ์ของ Botox คือการไปยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาท Acetylcholine ที่ปลายประสาท ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว

> กลับสารบัญ


Botox (โบท็อกซ์) กับประโยชน์ทางการแพทย์

มีการคิดค้น Botox (โบท็อกซ์) มาประมาณ 100 กว่าปีแล้ว และในอดีต (ปี 1980) Botox ถูกเริ่มนำมาใช้ในการรักษาอาการตาเหล่ หรือ ตาหดเกร็งตัวผิดปกติ นอกจากนี้พบข้อมูลการใช้ Botox เกี่ยวกับการรักษาอาการกล้ามเนื้อหดเกร็งตัวผิดปกติ (spasm) กล้ามเนื้อหน้ากระตุกผิดปกติ โรคการบีบตัวของหลอดอาหารผิดปกติ

จากการที่ Botox ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว รวมถึงลดการหลั่งสารบางอย่างที่ทำให้อาการปวดลดลง ทำให้พบว่าการฉีดโบท็อกซ์ยังสามารถช่วยลดอาการปวดศีรษะลงได้อีกด้วย

> กลับสารบัญ


Botox (โบท็อกซ์) กับความงามและการชะลอวัย

1. การฉีด Botox เพื่อลดริ้วรอย (Wrinkles) ส่วนมากจะใช้กับริ้วรอยเหี่ยวย่น ได้แก่ รอยขวางบริเวณหน้าผาก หัวคิ้ว หรือ รอยย่นจากการขมวดคิ้ว หางตา ใต้ตา นอกจากนี้ยังสามารถใช้ลดรอยย่นบริเวณ สันจมูก ช่วยลดความหนาของร่องแก้ม เป็นต้น โดยหลังฉีดจะสามารถเริ่มสังเกตว่าริ้วรอยลดน้อยลงในเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ และจะเห็นผลชัดเจนที่สุดประมาณ 2 สัปดาห์หลังฉีด

การฉีดลดริ้วรอยบริเวณ upper face นี้ สามารถ design ได้ให้เหมาะกับรูปหน้าของแต่ละคน เพื่อให้ออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุด อาจจะช่วยปรับลดให้โหนกแก้มเล็กลง หรือยกให้สูงขึ้นก็ได้ แล้วแต่บุคคล สามารถฉีดโบท็อกซ์ปรับแต่งรูปคิ้ว หรือ ยกคิ้วตามที่ต้องการ ลดปัญหาถุงใต้ตา ปรับให้ดวงตาดูกลมและโตขึ้น ตามที่ต้องการ

2. การฉีด Botox เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลง (Square Jaw Reduction) เหมาะกับคนที่มีปัญหากล้ามเนื้อตรงขอบขากรรไกรขนาดใหญ่ ซึ่งปัญหานี้อาจจะเกิดจากคนที่ชอบทานอาหารแข็งๆ หรือเหนียวบ่อยๆ คนที่นอนกัดฟัน หรือคนที่มีปัญหาการสบฟัน การฉีด Botox สามารถช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณนี้มีขนาดเล็กลง ทำให้หน้าดูเรียวขึ้นได้ สามารถฉีดซ้ำได้ทุกประมาณ 4 - 6 เดือน การฉีดต่อเนื่องจะทำให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลงและระยะห่างอาจจะนานขึ้น

3. การฉีด Botox เพื่อการยกกระชับผิวหน้าและลำคอ (Nefertiti Lift) บริเวณขอบหน้าส่วนล่างและลำคอ จะมีกล้ามเนื้อพาดอยู่บริเวณดังกล่าว การฉีด Botox บริเวณนี้ ต้องอาศัยเทคนิคเฉพาะเพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ผลที่ได้จะทำให้ใบหน้าดูกระชับมากขึ้น ลดความหย่อนคล้อยของบริเวณแก้ม เห็นขอบหน้าชัดขึ้น มุมปากยกขึ้น รวมทั้งผิวบริเวณลำคอ หรือรอยย่นบริเวณหน้าอก ดูตึง และเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น

4. การฉีด Botox ช่วยกระชับรูขุมขน (Microbotox) การฉีด Botox วิธีนี้จะช่วยให้ผิวบริเวณแก้มและใต้ตามีความกระชับและเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถลดปริมาณเหงื่อ และอาการหน้ามันลงได้ด้วย แต่อาจจะต้องทำต่อเนื่องทุก 2 - 3 เดือน ผลที่ได้จะดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเป็นที่พอใจแล้ว ก็อาจจะกลับมาฉีดซ้ำทุก 6 เดือน

5. การฉีด Botox ในบริเวณอื่น ๆ เช่น ช่วยลดรอยย่นบริเวณรอบปาก หรือรอยย่นบริเวณคาง ช่วยปรับรูปคางให้ได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น ลดขนาดของปีกจมูก ลดปัญหาคางสองชั้น

6. การฉีด Botox ลดขนาดน่อง ในรายที่ขนาดขาค่อนข้างใหญ่จากกล้ามเนื้อบริเวณน่อง

7. การฉีด Botox ลดเหงื่อ (Hyperhidrosis) บริเวณรักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า คอ หน้าอกและแผ่นหลัง พบว่าได้ผลที่ดีมาก

อย่างไรก็ตาม การฉีดโบท็อกซ์นั้น ผลจะอยู่ได้ประมาณ 4 - 6 เดือน เมื่อหมดฤทธิ์ยา อาจจะต้องกลับมาฉีดซ้ำใหม่ แต่ข้อดีก็คือ ถือเป็นการชะลอวัยแบบหนึ่ง เพราะในช่วงที่โบท็อกซ์ออกฤทธิ์นั้น ทำให้ป้องกันไม่ให้เกิดรอยเหี่ยวย่น เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ถึงแม้ว่าเมื่อหมดฤทธิ์แล้ว แต่ผู้ป่วยไม่ได้ฉีดต่อเนื่อง สภาพริ้วรอย ก็จะไม่มากไปกว่าสภาพ ณ ก่อนฉีด แต่ในทางตรงกันข้าม หากผู้ป่วยมารับการฉีดโบท็อกซ์ต่อเนื่อง ตามที่แพทย์นัด สภาพริ้วรอยและสภาพผิวหน้าจะยังเหมือนเดิมไปตลอดแม้เวลาผ่านไป รวมทั้งสามารถทำให้ฤทธิ์ของโบท็อกซ์อยู่ได้นานมากขึ้นหลังการฉีดต่อเนื่องประมาณ 4 - 5 ครั้งอีกด้วย

> กลับสารบัญ


ข้อควรระวังก่อนเข้ารับการฉีด Botox

ปัจจุบันมี Botox จำนวนมากหลายยี่ห้อ แต่ที่มีการใช้มาเป็นระยะเวลานานและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก คือ Botulinum Toxin Type A ที่ผลิตจากอเมริกา (Botox) ส่วน Botox ยี่ห้ออื่นที่พึ่งมีมาไม่นานนี้ มีหลากหลายยี่ห้อจากหลายประเทศ และเป็นที่แพร่หลายตามคลินิกทั่วๆ ไป เนื่องจากราคาค่อนข้างถูก แต่ผลการรักษาอาจคลาดเคลื่อนออกไปจากที่ควรจะเป็น รวมทั้งยังอาจมีผลข้างเคียงที่อันตรายได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีรายงานพบว่า Botox ยี่ห้ออื่น อาจจะมีส่วนประกอบบางอย่างที่ชักนำให้เกิดการดื้อยา ทำให้การฉีด Botox ในครั้งหลังๆ ไม่ได้ผลตามที่ควรจะเป็น

> กลับสารบัญ


อีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องพิจารณาคือ สถานที่ให้บริการต้องน่าเชื่อถือ รวมทั้งแพทย์ผู้ทำการรักษาด้วย Botox ควรต้องเป็นแพทย์ผู้มีความรู้ความชำนาญในการฉีด Botox อย่างดี และการฉีด Botox ในคนไข้แต่ละรายก็ต้องอาศัยเทคนิคการฉีดที่แตกต่างกันออกไปเพื่อให้ได้ผลออกมาเป็นที่น่าพอใจสำหรับคนไข้รายนั้น




ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย





Share :

สินค้าในตระกร้าไม่ถูกต้องตามเงื่อนไข, กรุณาตรวจสอบจำนวน
จัดการตระกร้าสินค้า

เมื่อคลิก “อนุญาตคุกกี้ทั้งหมด” หมายความว่าผู้ใช้งานยอมรับที่จะเปิดการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเปิดใช้คุณสมบัติของโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการทำการตลาดและการโฆษณา รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลการใช้งานกับพาร์ทเนอร์โซเชียลมีเดีย